เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสพาพ่อไปเที่ยวไกลบ้านมากๆ ครั้งนี้ไปถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ ปกติพ่อผมจะไม่ชอบไปเที่ยวค้างคืนที่ต่างจังหวัด เพราะไม่อยากทิ้งบ้านไปไกล อารมณ์แบบผู้สูงอายุห่วงบ้านเนาะ จริงๆ แกก็อยากไปแหละ ครั้งนี้ก็อ้อนวอนเป็นเดือนๆ กว่าพ่อจะยอมไป อาจเป็นเพราะพี่สาวอาสาเฝ้าบ้านให้ด้วย ทำให้พ่อยอมทิ้งบ้านไปกับผม โดยส่วนตัวผมอยากให้พ่อได้ไปเที่ยวบ้าง ทำงานมาทั้งชีวิตแล้ว ถ้ามีโอกาสพาเที่ยว ก็อยากพาไปด้วยทุกที่ ไม่อยากมานั่งเสียดายตอนหลังครับ
โจทย์คือพาผู้สูงอายุไปเที่ยว ที่พักจะต้องเหมาะกับผู้สูงอายุ (ไม่นอนเต้นท์) เห็นวิวสวยๆ ไม่ต้องเดินมาก จอดรถปุ๊ป เดินเข้าที่พักปั๊ป ทริปนี้จะไม่ได้ผจญภัยอะไรมากเนาะ ถ้าใครจะจัดทริปตาม พาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวบ้างก็ยินดีครับ
การเดินทางไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์
พวกเราออกเดินทางในคืนวันศุกร์ โดยออกจากจังหวัดปทุมธานีประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ขับรถไปเรื่อยๆ กะว่าให้ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ตอนตี 5 ครึ่ง โดยผมนายโอเอ้จะรับหน้าที่ขับรถตลอดทั้งคืน เพราะผมเป็นสายนอนดึกอยู่แล้ว สบายมาก (จริงๆทุกคนเป็นห่วงแหละ กลัวว่าผมจะหลับใน)
รถที่ผมใช้ในทริปนี้จะเป็นรถ TOYOTA INNOVA 2.0 G ปี 2015 ไปกัน 6 คน เดินทางโดยใช้ถนนหมายเลข 1 และหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดปทุมธานี -> พระนครศรีอยุธยา -> สระบุรี -> ลพบุรี->เพชรบูรณ์ ระยะทางประมาณ 400 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. และเนื่องจากเรามากับผู้สูงอายุ เราเลยจะแวะเข้าห้องน้ำในปั๊มทุก 1-2 ชม. ผู้สูงอายุนั่งรถนานๆ จะเมื่อยครับ ต้องลงไปเดินบ้าง
ถามว่าเส้นทางเปลี่ยวไหม ต้องบอกว่า ช่วงถนนในจังหวัดลพบุรีไปยังเพชบูรณ์จะมีช่วงที่มืดเป็นระยะๆ มีเนินเขาบ้าง แต่ก็มีรถขับกันไปเป็นเพื่อนอยู่ครับ อาศัยขับไปเรื่อยๆ เพื่อความปลอดภัย กะว่าจะให้คนในรถได้หลับกันก่อน แล้วค่อยมาสลับกันขับ ปรากฏว่าไม่มีใครยอมนอนกันเลย โอเค งั้นคุยกันไปตลอกทางแล้วกัน ผมก็ใช้เทคนิคนั่งขับหลังตรงไม่พิงเบาะเลย อันนี้เวิร์ค คือผมไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย จนเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ราวๆ ตี 4 กว่าๆ จำได้ว่าใช้ถนนเลี่ยงเมือง ค่อนข้างมืดและเงียบ แต่ถนนดีมาก ขับแล้วนิ่มไม่สะเทือนเลย หันไปดูคนในรถอีกทีหลับทั้งคัน ฮ่าๆ
เช้าวันที่ 5 กันยายน 2563 พวกเรามาถึงจุดนัดพบ เผอิญพี่สาวและพี่เขยมาก่อนแล้ว เลยนัดเจอกันที่ปั้มน้ำมันใกล้ๆ ทางขึ้นเขาค้อ โดยโปรแกรมวันเสาร์คือเที่ยวเขาค้อ แล้วตอนเย็นค่อยขึ้นไปพักบนภูทับเบิก
โอเค ได้เวลาที่ผมจะพักบ้างแล้ว ให้น้องชายขับแทน ผมก็หลับในรถ รู้ตัวอีกที ทำไม่รถมันส่ายไปส่ายมา เหมือนเข้าโค้งอะไรอยู่ ก็เลยลืมตามาดู อ๋อ รถกำลังขึ้นเขาค้ออยู่ครับ ก็ฝืนหลับต่อ แบบว่าหลับๆ ตื่นๆ แบบนี้ตลอดทาง มารู้ตัวอีกที เราถึงจุดหมายแรกแล้ว นั่นก็คือ ทุ่งกังหันลม เขาค้อ
ทุ่งกังหันลม เขาค้อ
ทุ่งกังหันลม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเข้ามาจะสามารถมองเห็นกังหันลมโดดเด่น จุดที่ตั้งของโครงการทุ่งกังหันลม อยู่บนเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร เนื้อที่ 350 ไร่ จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 18.00 น.
สถานที่นี้เป็นจุดชมวิว เป็นเนินเขาและมีกังหันลมขนาดใหญ่มาก เรียงรายเต็มไปหมด เวลาลมพัดมาแรงๆนะ มันจะมีเสียงเจนเนอเรเตอร์ (เครื่องกำเนิดไฟภายในกังหันลม) ค่อนข้างดังเลยแหละ ไม่เคยได้ยินเสียงมันเลย เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าปกติมันจะมีเสียงดังขนาดนี้ไหมนะ
จะถ่ายกับกังหันลมสูงๆ เลยต้องถ่ายมุมเงย |
สถานที่นี้คนจะนิยมมาถ่ายรูปกับกังหันลม อากาศเย็นสบาย ในวันที่ผมไปหมอกเยอะ ท้องฟ้ายังไม่ค่อยเปิด ถ่ายรูปออกมาจะได้รูปแบบนี้ครับ
พยายามหามุมหล่อแล้วได้แค่นี้ |
ถ่ายรูปกับครอบครัวซะหน่อยครับ จริงๆ มันมีมุมให้ถ่ายเยอะนะครับ แต่ผมมากับครอบครัวเลยซนมากไม่ค่อยได้ ถ้ามากับเพื่อนปานนี้วิ่งลงไปทุ่งด้านล่างแล้วครับ ฮ่าๆ
รูปครอบครัว ณ ทุ่งกังหันลม เขาค้อ |
ที่นี่ถนนยังเป็นดินอยู่ครับ มีลานจอดรถ มีร้านอาหารทั้งร้านใหญ่ และร้านแบบเพิงเล็กๆ ที่ชาวบ้านทำขายอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้ก็จะมีร้านขายของฝาก ขายเครื่องดื่ม
ผมเห็นร้านกาแฟน่านั่งด้วย แต่เสียดายไม่ได้เข้าไปนั่ง เพราะต้องรีบไปต่อ |
หลังกินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลา 8 โมงกว่า พวกเราต้องรีบออกเดินทางไปยังสถานที่ต่อไป จะเป็นสถานที่ใดนั้น ฝากติดตามตอนต่อไปครับ
มองหา ที่พัก เขาค้อ เพชรบูรณ์ ใช่ไหม? จองผ่านเว็บ agoda.com ได้เลยครับ สะดวก เว็บนี้รับประกันราคาดีที่สุดครับ
------
การขับรถท่องเที่ยวนอกจากเราจะต้องวางแผนเส้นทาง วางแผนค่าใช้จ่ายแล้ว อย่าลืมตรวจสอบประกันรถยนต์ อย่าให้ประกันขาดเป็นอันขาด
เพราะการเดินทางบนท้องถนน ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว หากเราไม่มีประกันรถยนต์คุ้มครองเลย เกิดเหตุขึ้นมาแย่แน่ครับ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ แต่ถ้าเราหาประกันรถยนต์ดีๆ ที่มอบความคุ้มครองทั้งรถยนต์ และผู้โดยสารภายในรถทุกคน แบบนี้อุ่นใจแน่นอนครับ ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่มีประกันรถยนต์ หรือ ประกันรถยนต์กำลังจะหมดอายุในเร็ว ๆ นี้ ขอแนะนำให้เช็คเบี้ยประกันที่ Link ด้านล่างได้เลย
Roojai.com เป็นประกันออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุดในประเทศไทย การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียตลอด 24 ชั่วโมง เช็คเบี้ยประกันรถกับ Roojai.com พบข้อเสนอที่ดีกว่า
0 ความคิดเห็น