ประเทศไทยอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับคนรุ่นใหม่อีกต่อไป | Ae Thanet

 

***บทความนี้เป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ***

สิ่งที่แต่ก่อนว่าดี ตอนนี้อาจจะไม่ดีแล้วก็ได้

ก่อนที่เราจะพูดคุยกัน อยากให้ทำควมเข้าใจกันก่อนว่า อะไรที่เขาว่าดีในสมัยก่อน ปัจจุบันมันอาจจะไม่ดีแล้วก็ได้ ไม่อยากให้ไปยึดติดว่าประเทศไทยดีที่สุดในโลก ไม่มีใครไม่รักบ้านเกิดหรอก แม้แต่คนไทยในต่างแดนหลายคนเขาก็ยังคิดถึงประเทศไทยอันเป็นบ้านเกิด แต่ที่เขาไม่กลับมาเพราะเขาอยู่ที่ต่างประเทศแล้วชีวิตมันดีกว่าไง ถ้ามันลำบากเขาก็กลับมาแล้ว อันนี้มาจากการไล่ดูคลิปคนไทยในต่างแดน หลายๆ คนพูดไปในทำนองเดียวกันว่า ที่ไทยมันไม่มีอะไร อยู่ที่นี่ดีกว่า ซึ่งตอนเราได้ยินแรกๆ ก็ตกใจนะ เพราะเราถูกฝังหัวมาตลอดว่าประเทศไทยมันดีที่สุดในโลกไง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก?

เราถูกฝังหัวมาตั้งแต่เด็ก ในตำราเรียนบ้าง คุณครู หรือแม้กระทั้งรัฐบาลว่าประเทศไทยดีที่สุดในโลก เรามีผู้นำเก่งอย่างนู้น อย่างนั้น แต่พอได้เปิดใจลองดูคลิปของคนไทยรีวิวชีวิตความเป็นอยู่ในต่างประเทศแล้ว คนละเรื่องเลย ทั้งเรื่องรายได้ คุณภาพการศึกษา คุณภาพการใช้ชีวิต ฯลฯ

อย่างตัวผมเองได้มีโอกาสไปดูงานและเที่ยวที่ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ มันเหมือนได้ออกมานอกกะลาจริงๆ เห็นความแตกต่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ ของประเทศที่เจริญแล้วมันดี มันครอบคลุม คุณไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์คุณก็สามารถไปไหนก็ได้ทั่วประเทศ ซึ่งมันดีมากๆ หรือแม้กระทั่งทางเท้าของประเทศที่เจริญแล้วของเขากว้าง เดินสบาย ไม่ต้องกลัวเดินชนเสาไฟ หรือเหยียบแล้วน้ำจะกระเด็นเปื้อนขา สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นในประเทศที่ประชาชนในเมืองสามารถวิจารณ์การทำงานของรัฐได้ โดยที่เขาไม่ถูกจับดำเนินคดี หรือโดนกล่าวหาว่าไม่รักแผ่นดิน พอมันวิจารณ์การทำงานได้ มันก็จะเกิดการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และรัฐเขาทำงานให้กับประชาชนที่เป็นผู้จ่ายภาษีจริงๆ

ก้าวแรกของการพัฒนาคือการยอมรับความบกพร่องเสียก่อน

ค่าแรงถูก ค่าครองชีพสูง

ต่อให้ผมไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เป็นแค่พนักงานประจำทั่วไป ผมยังรู้เลยว่าค่าแรงที่ประเทศไทยถูก ทุกคนรู้ กี่ปีมาแล้วเด็กจบ ป.ตรี เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ 15,000 บาท ไม่มีการปรับเรทเลยมาเป็นสิบปี ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวในเมืองตอนนี้ชามละ 50 กว่าบาทไปแล้ว ต่างจังหวัดก็อาจจะ 35-40 บาทขึ้นไป ไหนจะค่าที่พัก ค่าเดินทาง เงินเหลือเก็บแทบจะไม่มี

เพื่อนผมที่อยู่ต่างประเทศ เขาเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศได้เงินเดือนมากกว่าตอนที่ทำอยู่ที่ไทย 3-4 เท่า ในขณะที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้ต่างกันมาก มีเงินเก็บส่งให้ทางบ้านได้ด้วย

ถ้าอยากอยู่เมืองไทยและอยากรวย การทำงานประจำจะไม่ใช่คำตอบแล้ว อาจจะต้องมองหาธุรกิจค้าขายซึ่งจะรวยเร็วกว่า หรือไม่ก็ต้องมีรายได้หลายๆ ทาง 

จ่ายภาษีไปแต่คุณภาพชีวิตแย่

ถ้าตอนนี้คุณอยู่ไทย แล้วเปิดใจมองรอบๆ ตัว คุณจะเห็นว่าคุณต้องพึ่งพาตัวเองหนักมาก ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองเกือบทุกอย่าง ขนาดในสถานการณ์โควิด 19 คุณจะต้องหาอุปกรณ์ป้องกันตัวเองทุกชิ้น ต้องแย่งลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากรัฐ หรือแม้กระทั้งเสียเงินเพื่อให้ได้วัคซีนคุณภาพที่ประเทศโลกที่ 1 ฉีดกัน คุณว่ามันใช่ไหม?

ระบบขนส่งมวลชนก็เก่า รถไฟฟ้าก็กระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพฯ ภาษีก็พัฒนาแต่ในเมืองไม่กระจายไปต่างจังหวัด การศึกษาก็ล้าหลังให้ท่องจำอะไรก็ไม่รู้ ยัดเหยียดค่านิยมให้เด็กๆ ท่องจำไปเรื่อยจบมาแล้วก็ไม่ได้ใช้ในการทำงาน หรือแม้กระทั้งการขอรับบริการจากหน่วยงานรัฐก็ยังมีการใช้เส้นใช้สายลัดคิวกันเลย ผมว่าอะไรหลายๆ อย่างคุณน่าจะเห็นด้วยตัวเองแล้วล่ะ 

อนาคตสมองไหลแน่ๆ

ถ้าคุณได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวในประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว คุณอาจจะอยากออกจากประเทศไทย ไปทำงานที่ต่างประเทศก็ได้ ค่าแรงก็มากกว่า คุณภาพชีวิตก็ดีกว่า สุขภาพจิตก็ดีกว่า นานๆ ทีค่อยกลับมาเยี่ยมญาติที่ไทยก็ได้  ผมเองยังอยากไปเลย ใครๆ ก็อยากมีอนาคตที่ดีใช่ไหมครับ

แล้วถ้าคนรุ่นใหม่ที่เขาเก่งๆ มีวิสัยทัศน์หนีไปทำงานต่างประเทศหมด คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ไม่ยาก ก็หนักกว่าปัจจุบันครับ เพราะปัจจุบันก็มีคนไทยไม่น้อยแล้วที่หนีไปทำงานต่างประเทศ ทำให้กำลังในการพัฒนาประเทศมันหายไป สุดท้ายประเทศก็จะพัฒนาช้าเป็นเต่าคลานกันเลยทีเดียว

ท้ายที่สุดแล้ว การที่คนคนนึงจะตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อโอกาสที่ดีกว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะเงื่อนไขการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนคนที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยต่อ อยากให้มองความเป็นจริงให้มากๆ ปรับตัวให้ทันโลก คนรุ่นใหม่ผมว่าไม่น่าห่วงพวกเขาเข้าถึงข้อมูลทั่วโลก ภาษาก็ดีกว่า ในขณะที่คนรุ่นเก่าไม่ค่อยอยากจะปรับตัวและยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งที่ตนเองรู้มันถูกต้อง ถ้าได้ลองเรียนรู้ใหม่อีกครั้ง ทิ้งความเชื่อเก่าๆ อาจจะเห็นว่าโลกภายนอกมันไปไหนต่อไหนแล้ว อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ครับ เปิดใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา

นอกจากนี้อยากให้มองว่าการเงินเป็นเรื่องสำคัญด้วย เพราะถ้าเรามีสุขภาพการเงินที่ดี ชีวิตของเราก็จะราบรื่น มั่นคง อยากให้มีรายได้หลายๆ ทาง เมื่อยามที่เกิดวิกฤตเราจะได้ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินครับ