เคลมสด กับ เคลมแห้ง แตกต่างกันอย่างไร? | Ae Thanet



การมีรถยนต์ขับเป็นอะไรที่สะดวกสบาย ไปไหนมาไหนก็ได้ แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าใช้จ่ายประจำปี ได้แก่ ค่า พ.ร.บ. ค่าภาษีรถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์อีก เช่น ค่าเปลี่ยนถ่ายของเหลวรถยนต์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์  ค่าล้างรถ ฯลฯ นอกจากเรื่องการบำรุงรักษารถยนต์แล้ว เพื่อนๆ ควรมีความรู้เรื่องประกันภัยรถยนต์และการเคลมไว้บ้าง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่ตกใจ และรู้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร

เพื่อนๆ อาจเคยได้ยินคำว่า "เคลมสด" และ "เคลมแห้ง" ซึ่งเป็นคำศัพท์ในวงการประกันรถยนต์แล้วเกิดความสงสัยว่ามันคืออะไร? เสียเวลาอ่านบทความนี้สักนิด เพราะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยเพื่อนๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เรามาเรียนรู้ไปทีละคำครับ

เคลมสด

คือ การเคลมที่ต้องการพนักงานออกตรวจสอบ ณ สถานที่เกิดเหตุ เช่น รถชนรถมีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บ รถประกันหรือรถคู่กรณีเกิดความเสียหายมาก ซึ่งการเคลมประเภทนี้ ผู้ขับขี่รถคันเอาประกันหรือรถคู่กรณีจะได้รับใบหลักฐานในการติดต่อค่าเสียหาย (ใบเคลม) จากพนักงานเคลม ซึ่งสามารถนำไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทฯได้ทันที

แต่ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่สะดวก ก็สามารถเก็บใบเคลมไว้ก่อน และเมื่อเราสะดวกตอนไหนก็ค่อยเอารถยนต์เข้าซ่อม แต่ต้องนำรถยนต์เข้าซ่อมก่อนกรมธรรม์หมดอายุ ไม่อย่างนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราจะต้องเป็นคนออกเอง 

จากประสบการณ์ส่วนตัวตอนได้รับใบเคลม พนักงานบอกใบเคลมมีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ได้รับใบเคลมก็จริง แต่เราไม่ควรปล่อยนานขนาดนั้น ควรรีบจัดการเคลมซ่อมให้เรียบร้อยก่อนประกันหมดอายุจะดีกว่า อย่างเคสของผมเอง ตอนประกันเดิมจะหมดอายุ ผมรีบเข้าซ่อมสุดๆ เพราะประกันที่ใหม่จะยังไม่รับจนกว่าจะเคลมกับประกันเก่าให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้น ถ้ามีเวลาว่างก็ควรเข้าซ่อมเลยครับ

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ ด้วยความที่เราเป็นมือใหม่ อาจจะยังขับรถ เลี้ยวรถไม่คล่อง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมาก ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ถ้ารถยนต์ไม่เสียหายหนักมากจนน่าเกลียดหรือขับต่อไม่ได้ อาจจะยังไม่ต้องรีบเข้าซ่อมทันที อย่างผมเองผ่านไปอีกเดือน เกิดอุบัติเหตุรอบสองได้ใบเคลมมาอีกใบ รถเกิดรอยเฉียวชนเล็กน้อย ผมก็รวบซ่อมทีเดียวจะได้ไม่เสียเวลา เพราะการเข้าซ่อมเราต้องเอารถไปฝากซ่อม อาจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยทำให้เราไม่มีรถใช้งานครับ 

เคลมแห้ง 

คือ การเคลมที่ไม่ต้องการพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุออกตรวจสอบ ณ สถานที่เกิดเหตุ เช่น รถประกันเสียหายเล็กน้อยและไม่มีคู่กรณี  อุบัติเหตุเล็กๆน้อย ๆ อย่างเช่น ถอยชนรั้วบ้าน รอยขูดขีด สีถลอกจากเศษหิน รอยต่างๆ การเฉี่ยวชนที่รถสามารถขับเคลื่อนไปต่อได้ ซึ่งจะไม่แจ้งเคลมทันทีหลังจากเกิดเหตุ เรียกว่า เคลมแห้ง

ซึ่งการเคลมประเภทนี้ ผู้เอาประกันสามารถนำรถคันเอาประกันเข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทฯ ได้ตลอดเวลาที่ผู้ขับขี่สะดวก แต่ทั้งนี้ต้องนำรถเข้าซ่อมก่อนกรมธรรม์หมดอายุ

การเคลมแห้งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เราต้องรู้เงื่อนไขกรรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของเราให้ละเอียด เพราะกรรมธรรม์อาจจะระบุไว้ชัดเจนว่า การเคลมในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีเราต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก ดังนั้นถ้าเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีถ้าเป็นไปได้ควรเคลมสดจะดีกว่า 

กรณีไม่สะดวกเคลมสด เช่น รีบร่อน ประกันมาช้า เป็นต้น เราควรเก็บภาพถ่ายหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เราติดตามรถคู่กรณีได้ เช่น ภาพถ่ายที่เกิดเหตุ ภาพทะเบียนรถยนต์คู่กรณี เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เป็นต้น เพื่อให้สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ และอาจจะต้องตกลงว่าใครเป็นฝ่ายถูกเป็นฝ่ายผิดไว้ให้เรียบร้อย เพื่อติดต่อเคลมกับบริษัทประกันในภายหลัง

หากคู่กรณีหนี ถ้าเรามีภาพถ่ายหรือกล้องหน้ารถยนต์ ให้เรารีบติดต่อบริษัทประกันเพื่อทำการเคลมครับ บริษัทจะช่วยติดตามคู่กรณีให้ แต่ถ้าเราปล่อยเลยตามเลย ไม่รีบแจ้ง ไม่มีหลักฐานกล้องหน้ารถ ภาพถ่าย สุดท้ายจะกลายเป็นเคลมแห้ง และเราอาจเสียค่าใช้จ่าย

หากแจ้งเคลมแล้วบางรายการไม่อยู่ในรายละเอียดความคุ้มครอง ผู้เอาประกันจะต้องชำระค่าเสียหายเองทั้งหมด ดังนั้นก่อนทำประกันภัยรถยนต์จะต้องดูรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ดีว่า คุ้มครองอะไรบ้าง เคลมในรูปแบบใดได้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น การทำประกันชั้น3 ไม่สามารถแจ้งเคลมแห้งได้เพราะไม่ได้คุ้มครองรถยนต์ของเรา แต่คุ้มครองเพียงรถยนต์ของคู่กรณีนั่นเอง

สำหรับมือใหม่เลือกซื้อประกัน ผมแนะนำบทความที่ผมเขียนก่อนหน้า

สมัยนี้ซื้อประกันออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เราสามารถเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ เช็คเบี้ยประกันรถ เปรียบเทียบและทราบรายละเอียดคร่าวๆภายในเวลาไม่กี่นาที สะดวกสะบายจริงๆ ผมขอแนะนำเว็บซื้อประกันออนไลน์ที่ผมรู้จัก เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปเช็คเบี้ยประกันได้เลยครับ

Roojai.com - รู้ใจ 


Roojai.com เป็นประกันออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุดในประเทศไทย การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อนๆ สามารถลองเช็คเบี้ยประกันรถกับ Roojai.com ดูก่อนที่จะตัดสินใจแล้วอาจจะพบข้อเสนอที่ดีกว่าก็เป็นได้ครับ



RABBITFINANCE (แรบบิทไฟแนนซ์) ประกันรถยนต์ออนไลน์


แรบบิทไฟแนนซ์ เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์จาก 30 บริษัทชั้นนำภายใต้เครือ BTS Group พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ซึ่งทางแรบบิทไฟแนนซ์เขาโฆษณาว่าประหยัดเบี้ยสูงสุดถึง 70% เพื่อนๆ สามารถเข้าไปลองเช็คข้อเสนอต่างๆ ได้ครับ คลิกเช็คเบี้ยประกัน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น