มือใหม่ วิธีการ ต่อภาษีรถยนต์ ปีแรก กรณีเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคาร | Money x Life EP.2



สำหรับผู้ใช้รถมือใหม่ นอกจะต้องเสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ ค่าประกันรถยนต์รายปีแล้ว เราจะต้องดำเนินการเสียภาษีรถยนต์รายปีด้วย

"การต่อภาษีรถยนต์" หรือ "การต่อทะเบียนรถยนต์" เป็นสิ่งที่ต้องทำตามกฎหมาย และจะต้องทำในทุกๆ ปี เมื่อเรามีรถยนต์ โดยสามารถต่อล่วงหน้าได้ก่อนที่ทะเบียนจะหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน  หากเสียภาษีล้าช้าจะถูกปรับเดือนละ 1% ของราคาภาษี หากขาดชำระติดต่อกันนาน 3 ปี รถจะถูกระงับการใช้ทะเบียนและต้องทำเรื่องขอทะเบียนใหม่อีกครั้ง

ซึ่งเมื่อเราเสียภาษีประจำปีแล้ว จะได้สติ๊กเกอร์มาไว้แปะหน้ารถ ตรงนี้เราต้องคอยสังเกตและจำว่า รถยนต์ของเราทะเบียนจะหมดอายุเดือนไหน ปีไหน และควรดำเนินการต่ออายุทะเบียนตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ

บทความนี้จะมาเล่า วิธีการ ต่อภาษีรถยนต์ ปีแรก กรณีเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคาร สำหรับมือใหม่ แบบง่ายๆ ไหนๆ เราก็เป็นลูกค้าเช่าซื้อกับธนาคารแล้ว เราก็ใช้ธนาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ และด้วยความที่เราเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคาร (ผ่อนค่างวดรถยนต์กับธนาคาร) และธนาคารเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ ตรงนี้ธนาคารจะดูแล มีจดหมายแจ้งเตือนมายังผู้เช่าซื้อก่อนอยู่แล้วครับ ดังนั้นผมจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเป็นหัวข้อ ๆ ดังนี้

ขั้นตอนการชำระค่า พ.ร.บ. กับธนาคาร / ซื้อ พ.ร.บ. ออนไลน์ด้วยตนเอง

สมมติว่าทะเบียนรถยนต์ของผมจะหมดอายุเดือนสิงหาคมปีนี้ ธนาคารจะส่งจดหมายมาแจ้งให้ชำระค่า พรบ. และค่าภาษีรถยนต์ประจำปี มาเป็นฟอร์ม Bill Payment ชี้แจงยอดที่ชำระเลย ในปีแรกผมไม่รู้ ผมก็นำ Bill Payment นี้แหละไปชำระค่า พรบ. ที่เคาเตอร์ธนาคาร ได้มาเป็นใบเสร็จชำระเงิน  แล้วผ่านไปสัก 15 วันก็ได้ตารางกรรมธรรม์ พ.ร.บ. จัดส่งมาที่บ้านครับ

พ.ร.บ.  หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คือ กฎหมายที่บังคับให้รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกจะต้องทำไว้เป็นหลักประกันให้กับคนในรถทุกคัน หรือบางคนจะเรียกว่า "ประกันภาคบังคับ" ซึ่งเท่ากับว่าผู้ใช้รถใช้ถนนจะได้รับคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลอันเกิดจากอุบัติเหตุ หรือ การประสบภัยจากรถในรูปแบบต่าง ๆ (ค่ารักษาพยาบาล 80,00 บาท/คน กรณีเสียชีวิต 500,000 บาท/คน *โปรดศึกษารายละเอียดจากตารางกรรมธรรม์) ซึ่ง พ.ร.บ. จะคุ้มครองแค่คน แต่ไม่คุ้มครองรถ ถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการคุ้มครองรถจะต้องซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มนั่นเอง

ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่า จริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องซื้อ พ.ร.บ. กับธนาคารที่เราเช่าซื้อรถยนต์ก็ได้  เราจะหาซื้อ พรบ. จากที่ไหนก็ได้ ตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะได้ พรบ. แถมมาตอนซื้อประกันรถยนต์ หรือ อย่างผมเอง ในปีที่สอง ก็หาซื้อตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ แอพต่าง ๆ แล้วดูว่าที่ไหนเสนอส่วนลด เครดิตเงินคืนให้เราสูงสุด เราก็ซื้อที่นั่น ทำให้ปีที่สองผมประหยัดเงินไปได้ถึง 100 บาท เป็นการใช้จ่ายที่ชาญฉลาด

ค่า พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์เก๋ง 646 บาท / รถยนต์กระบะ 968 บาท / รถตู้ส่วนบุคคล 1,183 บาท 

สำหรับการซื้อ พรบ. ออนไลน์ ไม่เกิน 30 นาที เราก็จะได้ตารางกรรมธรรม์จัดส่งมาทางอีเมล (ถ้าเป็นวันหยุดอาจจะต้องรอวันเปิดทำการ ทั้งนี้ขึ้้นอยู่กับนโยบายการทำงานของบริษัทประกันนั้นๆ ) ซึ่งตารางกรรมธรรม์ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มานั้น เราสามารถนำไปดำเนินการต่อภาษีได้เลยครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่จะไปต่อภาษีด้วยวิธีเลื่อนล้อต่อภาษี แนะนำให้โทรหาบริษัทประกันให้เขาจัดส่งตารางกรรมธรรม์แบบกระดาษมาที่บ้านครับ (ขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน บางบริษัทจะให้เป็นไฟล์ถ้าอยากได้กระดาษให้โทรไปแจ้งเขาให้จัดส่ง)

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ซื้อ พ.ร.บ. แนะนำให้ดำเนินการซื้อให้เรียบร้อยก่อนครับ ซึ่งปัจจุบันนี้มีช่องทางให้ได้เปรียบเทียบราคาออนไลน์ สะดวกรวดเร็วมากๆ ครับ



แรบบิทไฟแนนซ์ เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์จาก 30 บริษัทชั้นนำภายใต้เครือ BTS Group พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ซึ่งทางแรบบิทไฟแนนซ์เขาโฆษณาว่าประหยัดเบี้ยสูงสุดถึง 70% เพื่อนๆ สามารถเข้าไปลองเช็คข้อเสนอต่างๆ ได้ครับ คลิกเช็คเบี้ยประกัน


ทิพยประกันภัย TIP INSURE



TIP INSURE เว็บไซต์ขาย ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ จากทิพยประกันภัย ราคาถูก ซื้อง่าย ซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง มั่นคงด้วยภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีแบบประกันภัยรถยนต์ให้เลือกมากมาย


ขั้นตอนการชำระค่าภาษีรถยนต์

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ผ่อนค่างวดรถกับทางธนาคาร ผมแนะนำให้ชำระค่าภาษีกับธนาคาร ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวพบว่า ค่าภาษีที่ธนาคารเรีกยเก็บจากเรานั้น (ดูได้จาก Bill Payment ที่ธนาคารส่งมาให้) ตรงกับค่าภาษีที่กรมขนส่งทางบกเรียกเก็บเลยครับ นั่นหมายความว่าธนาคารไม่ได้ชาร์จเงินเพิ่มจากผมเลย (มีเศษสตางค์นิดหน่อยที่ธนาคารปัดขึ้น) 

ถามว่าเราไม่ชำระค่าภาษีกับธนาคารได้ไหม? ผมลองศึกษาวิธีการชำระค่าภาษีรถยนต์ผ่าน 'บริการเลื่อนล้อต่อภาษี' ของกรมขนส่งทางบก พบว่าเราจะต้องเสียเวลาขับรถไป แล้วก็ต้องเตรียมเอกสารประกอบการต่อภาษีไปด้วย (เอกสารประกอบการต่อภาษีจะกล่าวในหัวข้อถัดไปครับ) 

หรือ การต่อภาษีออนไลน์ผ่านทางระบบ e-service กรมขนส่งทางบก ซึ่งเราต้องสมัครบัญชีผู้ใช้งานก่อน จึงจะสามารถดำเนินการต่อภาษีภายในระบบได้ แต่ก็พบว่ามีค่าจัดส่งสติ๊กเกอร์และเอกสารหลักฐานแสดงการชำระภาษีมาที่บ้านของเราประมาณ 30 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)

คิดไปคิดมาผมเลยชำระค่าภาษีกับธนาคารดีกว่า ซึ่งให้ธนาคารทำให้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผมในขณะนั้น แล้วก็ใช้ Shopee Pay สแกนจ่าย ใช้คูปอง Shopee Coin นู้นนี่นั้นมาเป็นส่วนลด ก็ช่วยลดค่าภาษีได้ไปอีก 55+


ขั้นตอนการส่งเอกสารการต่อภาษีให้กับธนาคาร

รายการเอกสารหลักฐานที่ธนาคารขอให้ผมจัดส่ง สำหรับให้ธนาคารไปดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีที่กรมขนส่งทางบก มีดังนี้

  1. ตารางกรรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) พร้อมส่วนหาง (ส่วนหางเป็นส่วนที่สำคัญอย่าให้หาย) ตรงนี้ผมใช้ไฟล์กรรมธรรม์ที่ได้รับทางอีเมลจากบริษัทประกันครับ
  2. หลักฐานการชำระค่าภาษี ธนาคารไม่ได้ขอแต่ผมให้ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราชำระค่าภาษีให้กับธนาคารแล้วนะ
เอกสาร 2 รายการข้างต้นผมส่งอีเมลให้กับธนาคาร (อีเมลที่ธนาคารให้จัดส่งแจ้งมาใน Bill Payment อยู่แล้วเลยสะดวกครับ) หลังส่งหลักฐานให้ธนาคารวันถัดไปก็มีเจ้าหน้าที่ทัมทะเบียนรถยนต์ของธนาคารโทรมาว่าได้รับชำระค่าภาษีและได้รับไฟล์ตารางกรรมธรรม์แล้ว ซึ่งเขาจะดำเนินการต่อภาษีให้ เราก็รอแบบชิวๆ

ในบางกรณีอาจจะถูกเรียกเอกสารเพิ่ม เช่น

  • กรณีรถเกิน 7 ปี จะต้องมีเอกสารรายงานผลการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ฉบับจริง ซึ่งต้องส่งไปรษณีย์ไปให้ธนาคาร ซึ่งตอนนั้นถ้าผมต้องส่งเอกสารตัวนี้ให้ธนาคาร อาจจะต้องพิจารณาต่อภาษีด้วยตนเอง ถ้าทำได้นะครับ
  • กรณีติดก๊าซ NGV/LPG ต้องใช้หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบจากวิศวกรรม  (เอกสารอายุไม่เกิน 20 วัน นับจากวันตรวจและทดสอบ) ฉบับจริงทั้งชุด ซึ่งต้องส่งไปรษณีย์ไปให้ธนาคารเช่นกัน

เอกสารที่ใช้ต่อภาษีอีกตัว คือ สำเนาทะเบียนรถ ซึ่งธนาคารไม่ได้ต้องการเอกสารตัวนี้จากเรา เพราะธนาคารมีเล่มทะเบียนรถอยู่แล้วครับ แต่ถ้าเพื่อนๆ จะไปต่อภาษีด้วยตนเอง จะต้องมีสำเนาทะเบียนรถไปด้วย


ได้รับสติ๊กเกอร์ป้ายภาษี และเอกสารหลักฐานการเสียภาษี

หลังจากที่ธนาคารดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ที่กรมขนส่งทางบกให้เราเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะจัดส่งสติ๊กเกอร์ป้ายภาษีและใบเสร็จรับเงินของกรมขนส่งทางบกมาให้เราที่บ้าน ให้เรานำสติ๊กเกอร์ป้ายภาษีไปแปะที่หน้ารถ เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการต่อภาษีครับ

มือใหม่ ปีแรกจะรู้สึกงงๆ ทำตัวไม่ถูกครับ แต่พอผ่านปีแรกไปได้ จะเริ่มเข้าใจกระบวนการ วิธีการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี มากยิ่งขึ้น ผมจึงเอาประสบการณ์ต่อภาษีมาเขียนใส่บล็อกของผมไว้ เพื่อที่จะได้ไว้อ่านเองด้วย และเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ท่านอื่น ๆ ด้วย


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น