แชร์ประสบการณ์!!! ทริปรายาบุรีรีสอร์ท เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน | ตอนที่ 1 ตะลุยวัดถ้ำเสือ | Ae Thanet

 

บทความนี้ขอพักจากสาระความรู้เรื่องการเงินสักนิด มาแชร์ประสบการ์ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นทริปสั้น ๆ 2 วัน 1 คืน แต่มีความสุขมาก ๆ มาฝากทุกคนครับ เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้กับใครที่กำลังสนใจจะไปพักผ่อนที่จังหวัดกาญจนบุรี ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครครับ

สืบเนื่องจากที่เดอะแก๊งค์ของเราได้ที่พัก รายาบุรีรีสอร์ท เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งผมเองก็ไม่เคยไปพักเหนือเขื่อนศรีนครินทร์เลยตกลงปลงใจขอร่วมทริปด้วย ซึ่งตัดสินใจถูกมาก เหมือนได้ไปชาร์จแบตให้ตัวเอง อากาศที่สดชื่น กับความสงบท่ามกลางธรรมชาติ

พวกเราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ วันจันทร์ ปลายเดือนกรกฎาคม  เวลา 7 โมงเช้า มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เราคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง มีแวะทานอาหารเช้าที่ร้านข้าวแกงแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมครับ

ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปตัวเมืองกาญจนบุรี ผ่านถนนหมายเลข 338
หมายเลข 4 และ หมายเลข 323 ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.


ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการ Check-In โรงแรมนั่นจะต้องทำตอนบ่าย 2 เป็นต้นไป เราเลยวางแผนว่าจะไปเที่ยวเล่นในตัวเมืองกาญจนบุรีก่อน

สถานที่แรกที่ไป คือ วัดถ้ำเสือ เอ๊ะ ทำไมชื่อแปลกจัง

วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตานักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ พระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์สวยงาม โดดเด่นอยู่บนภูเขาขนาดย่อม ๆ เชื่อว่าใครที่ขับรถผ่านบริเวณนั้น ต้องเหลียวมองทุกคนแน่ๆ เพราะเด่นจริงๆ ครับ

บริเวณถนนทางเข้าวัดจะมีคุณน้า คุณลุง ชาวบ้านแถวๆ นั้น จะคอยโบกมือเรียกให้จอดรถในบ้านของเขา เป็นบริการรับฝากรถ ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) แต่เนื่องจากพวกเรามาในวันจันทร์ คาดว่าคนไม่เยอะ เราเลยพุ่งตัวเลี้ยวซ้ายเข้ากำแพงวัดไปเลย และก็ได้ที่จอดรถภายในวัด สมใจปรารถนา

ภาพบรรยากาศบริเวณลานจอดรถภายในวัดถ้ำเสือ ทางขึ้นเขา
ถ่ายรูปสวยได้อยู่นะทุกคน

ยืนบริเวณลานวัดจะเห็นร้านค้าขายของมากมาย ให้เราชิม ช้อปปิ้งกันได้สบายๆ แล้วก็มีศาลาวัด ลานจอดรถ และขณะนี้พวกเราก็อยู่บริเวณตีนเขา เดินไม่กี่ก้าวก็จะถึงทางขึ้นเขาครับ ซึ่งเราเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันได หรือว่าจะขึ้นรถราง (ลักษณะเหมือนรถรางนำเที่ยวตามสวนสนุกครับ นั่งได้ประมาณ 10 คน มีสลิงเส้นใหญ่ลากจูงขึ้นลงเขาไม่สูงมาก มีความลาดเอียงกะด้วยสายตาไม่ถึง 45 องศา แต่ก็แอบเสียวอยู่นะ ทำไว้ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้นบันไดไม่ไหวครับ ค่าบริการประมาณ 10 บาทต่อคน ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)

บรรยากาศบันไดทางขึ้นเขา วัดถ้ำเสือ ไม่สูงมาก
ปลอดภัย วิวสวย ร่มรื่น เดินขึ้นเพลินๆ เพื่อนร่วมทางเยอะมาก

เมื่อขึ้นบันไดมาถึงข้างบนสุด รางวัลที่พวกเราจะได้รับคือสายลมเย็น ๆ แล้ววิวทิวทัศน์แม่น้ำแม่กลอง ซึ่งวัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากแม่น้ำแม่กลองเพียง 500 เมตร เท่านั้น

จุดแรกที่ทุกคนไม่พลาดแน่นอน นั่นคือ การนมัสการพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อได้มาอยู่เบื้องหน้าแล้วคือสวยงาม ยิ่งใหญ่ ซึ่งผมเองได้อธิษฐานขอพรในเรื่องของสุขภาพ การงาน และการเงินอยู่นานเลยครับ วันที่ผมไปแดดแรงมาก แต่ทุกคนก็ยืนถ่ายรูปท้าแดดแบบไม่หวาดหวั่นกันเลย ครีมกันแดด SPF 50 ก็ไม่น่าจะเอาอยู่ ฮ่าๆ พกร่มมาด้วยจะดีมาก สำหรับใครที่ไม่สู้แดดก็มีร่มเงาของต้นไม้บริเวณนั้นช่วยได้ครับ

พระพุทธรูปปางประทานพร วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

ประวัติวัดถ้ำเสือ ฉบับรวบรัด
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วยอาคารและเจดีย์สถาปัตยกรรมไทย จีน ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม เริ่มวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2516 โดยเริ่มจากการสร้าง "หลวงพ่อชินประทานพร" สูง 9 วา 9 นิ้ว อ่านเพิ่มเติมที่ วิกิพี่เดีย


ต่อไปผมจะพาขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดหลายชั้นอยู่ครับ สำหรับผู้สูงอายุจะไม่ได้เดินขึ้นมากัน ข้างบนมีอะไรบ้างผมจะอาสาพาไปดูครับ (ตรงนี้เขาไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าขึ้นมานะครับ ต้องถอดไว้ด้านล่าง หาที่ซ่อนรองเท้ากันเอง)

ทางขึ้นเป็นบันไดวนขึ้นไปเรื่อย ๆ จำไม่ได้ว่า 7 หรือ 9 ชั้นครับ ต้องขออภัย
ยิ่งสูงจะยิ่งชันขึ้นเรื่อยๆ ครับ


จะมีพระพุทธรูปวางในแต่ละชั้น และมีภาพวาดตามฝากผนังครับ นี่คือภาพบรรยากาศบางส่วนในระหว่างทางเดินขึ้นพระธาตุครับ

ภาพจิตรกรรมฝาผนังบริเวณทางขึ้นพระธาต วัดถ้ำเสือ

ที่ด้านบนสุด เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ  สถานที่ค่อนข้างคับแคบ บวกกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ด้วย ทุกคนจึงรีบสักการะบูชาเสร็จแล้วรีบลงครับ เผื่อให้นักท่องเที่ยวท่านอื่น ๆ ได้มีโอกาสขึ้นมาสักการะครับ

สักการะพระบรมสารีริกธาตุ วัดถ้ำเสือ

ขึ้นมาข้างบนทั้งที จะลงไปเฉยๆ ไม่ได้ครับ เราต้องชมวิวทิวทัศน์สวยๆ กันก่อน ทิศเหนือจะเป็นภาพโค้งแม่น้ำแม่กลอง และภูเขาสวยๆ ลมพัดเย็นชื่นใด เบื้องล่างก็คือบริเวณลานจอดรถและบันไดทางขึ้นครับ

วิวทิวทัศน์ทิศเหนือ วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี


ทางด้านทิศตะวันตก ถ้ามองลงมาจากพระธาตุจะเป็นวิวของพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ครับ
วิวทิวทัศน์ทิศตะวันตก วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

ส่วนทางทิศใต้ ถ้ามองลงมาจากพระธาตุจะเห็นอาคารรูปทรงเจดีย์ ซึ่งผมเองไม่ได้เดินขึ้นไปบนอาคารนั้น และก็ไม่เห็นคนขึ้นไปด้วย ด้านหลังก็จะเป็นท้องทุ่งนา ทิศตะวันออกก็เป็นท้องทุ่งนาเช่นกัน

วิวทิวทัศน์ทิศใต้ วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่พักในจังหวัดกาญจนบุรี สามารถค้นหาและจองที่พักได้ที่เว็บ agoda ได้เลยครับ


ทั้งหมดนี้คือภาพบรรยากาศของวัดถ้ำเสือ จังหวัดกาญจนบุรี จริงๆ อยากให้ทุกคนที่ได้มีโอกาสมาจังหวัดกาญจนบุรีได้แวะมาเที่ยวสักครั้งครับ เป็นจุด Check-In ที่ห้ามพลาด จริงๆ แล้วภายในบริเวณวัดมีอะไรอีกเยอะแยะ ทางขึ้น-ลงหลายทาง มีถ้ำขนาดเล็กด้วย ถ้าชื่นชอบช่วยแชร์ คอมเม้นท์ให้กำลังใจ หรือแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ  ฝากติดตาม ทริปรายาบุรีรีสอร์ท เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน ของพวกเราในตอนต่อไปด้วยครับ

แชร์ประสบการณ์!!! ทริปรายาบุรีรีสอร์ท เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน | ตอนที่ 2 พาชมต้นจามจุรียักษ์ อายุมากกว่า 100 ปี

 



การขับรถท่องเที่ยวย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว หากเราไม่มีประกันรถยนต์คุ้มครองเลย เกิดเหตุขึ้นมาแย่แน่ครับ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ แต่ถ้าเราหาประกันรถยนต์ดีๆ ที่มอบความคุ้มครองทั้งรถยนต์ และผู้โดยสารภายในรถทุกคน แบบนี้อุ่นใจแน่นอนครับ ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่มีประกันรถยนต์ หรือ ประกันรถยนต์กำลังจะหมดอายุในเร็ว ๆ นี้ ขอแนะนำให้เช็คเบี้ยประกันที่ Link ด้านล่างได้เลย

Roojai.com - รู้ใจ 


Roojai.com เป็นประกันออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุดในประเทศไทย การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียตลอด 24 ชั่วโมง เช็คเบี้ยประกันรถกับ Roojai.com พบข้อเสนอที่ดีกว่า



RABBITFINANCE (แรบบิทไฟแนนซ์) ประกันรถยนต์ออนไลน์


แรบบิทไฟแนนซ์ เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์จาก 30 บริษัทชั้นนำภายใต้เครือ BTS Group พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ซึ่งทางแรบบิทไฟแนนซ์เขาโฆษณาว่าประหยัดเบี้ยสูงสุดถึง 70%


ASIA DIRECT BROKER (ADB)

Asia Direct Broker เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันภัยชั้นนำต่างๆมากมาย เช่น วิริยะประกันภัย สินมั่นคงประกันภัย เอเชียประกันภัย ทิพยประกันภัย แอลเอ็มจีประกันภัย ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เป็นต้น 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น