คะแนนสะสม (Point) VS เครดิตเงินคืน (Cash back) บัตรเครดิตแบบไหนคุ้มกว่า? | Ae Thanet



ปัญหาของคนที่จะสมัครบัตรเครดิตสักใบต้องคิด คงหนีไม่พ้นว่า จะเลือกสมัครบัตรเครดิตในรูปแบบของการสะสมแต้ม หรือ รับเครดิตเงินคืน แบบไหนจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด? บทความนี้จะมาช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจครับ

จากที่เข้ามาในโลกบัตรเครดิต ต้องบอกเลยว่าทุกการใช้จ่ายของผมมักจะมองหาความคุ้มค่า ผลตอบแทนอะไรบางอย่างกลับมาเสมอ ใช้จ่ายค่าอาหารจะได้คะแนนเท่าไหร่ แลกเป็นเครดิตเงินคืนได้เท่าไหร่ รู้สึกเพลิดเพลินกับการรูดใช้บัตรเครดิต แต่ผมก็ไม่กลัวเรื่องการเป็นหนี้บัตรเครดิตนะครับ เพราะผมมีเทคนิดการใช้บัตรเครดิตที่ต่อให้รูดใช้จ่ายอย่างไรก็มีเงินจ่ายอยู่แล้ว ถ้าใครอยากรู้ว่าผมใช้เทคนิคอะไรลองไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ได้นะครับ


กลับเข้าเรื่องนะครับ ถ้าคุณผู้อ่านมาเจอบทความนี้ แสดงว่ากำลังกังวลว่าจะเลือกบัตรเครดิตประเภทไหนดี ธนาคารต่างก็ออกบัตรเครดิตหลายบัตรมาให้เราเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด บัตรใบนี้เน้นเติมน้ำมัน บัตรใบนี้เน้นช้อปปิ้ง ฯลฯ ที่ธนาคารออกบัตรมาเยอะก็เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่หลักๆ มันจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ บัตรเครดิตที่ให้สะสมคะแนน และ บัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืน เช่นนั้นผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบัตรเครดิตทั้งสองประเภทก่อน


บัตรเครดิตประเภทสะสมคะแนน (Point) 

บัตรเครดิตประเภทนี้ เมื่อเราใช้รูดชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ ธนาคารจะให้คะแนนสะสม (แต้มบัตรเครดิต) แก่เราในอัตราที่ธนาคารกำหนด

บัตรเครดิตทั่วไปเมื่อใช้จ่าย 25 บาท จะได้ 1 คะแนน นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตบางใบที่ให้ทุกการใช้จ่าย 10 บาท ได้ 1 คะแนน ทำให้สะสมคะแนนได้เร็วขึ้น

 

เหมาะกับใคร?

เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเจาะจงไปในแต่ละด้าน ชอบล้าสะสมแต้ม ยิ่งโปรไหนแต้มกระฉูด  จะรู้สึกอยากรูดไปหมดซะทุกอย่าง  หลักๆ คือ เราจะต้องรู้ไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองก่อนว่า ตัวเราเองจะใช้บัตรเครดิตในหมวดไหนเป็นพิเศษ เช่น หมวดอาหาร หมวดช้อปปิ้ง หมวดบันเทิง ฯลฯ ก็ให้เราหาหาบัตรเครดิตที่ให้คะแนน คูณ 3 หรือ คูณ 5 ในหมวดนั้นๆ ไปเลย ก็จะทำให้สะสมคะแนนได้ไวมาก และควรเลือกบัตรเครดิตที่สามารถสะสมคะแนนได้เรื่อยๆ โดยที่คะแนนไม่หมดอายุ

จากประสบการณใช้บัตรเครดิตส่วนตัวของธนาคารหนึ่ง ทุกการใช้จ่าย 25 บาท จะได้ 1 คะแนน และคะแนนสะสม 10 คะแนน มีมูลค่า 1 บาท นั่นเท่ากับว่า การใช้จ่ายประมาณ 250 บาท จะได้ 10 คะแนน มีมูลค่าเทียบเท่า 1 บาท เสมือนได้เครดิตเงินคืน 0.4% นั่นเอง และถ้าผมใช้บัตรเครดิตชำระเงินในหมวดที่ธนาคารกำหนดจะได้คะแนนคูณ 5 เสมือนได้เครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 2% 

คะแนนบัตรเครดิตเอาไปใช้อะไรบ้าง?

ธนาคารก็จะมีการให้นำคะแนนสะสมบัตรเครดิตไปแลกเป็นของรางวัลต่างๆ แตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้ไปดูแคตตาล็อกแลกของรางวัล หรือทางหน้าเว็บไซต์ของธนาคาร  โดยสามารถนำคะแนนสะสมบัตรเครดิตไปแลกเป็นของรางวัลในหมวดต่างๆ ดังนี้

  • เครื่องใช้ในบ้าน (Home Appliances)  เช่น กาต้มน้ำไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง เตาอบ ไมโครเวฟ หม้อทอดไร้น้ำมัน  ชุดหม้อกระทะ ทีวี เครื่องซักผ้า ฯลฯ
  • ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) เช่น เครื่องนวดเท้า เก้าอี้นวด เครื่องชงกาแฟ ไดร์เป่าผม เต็นท์แคมปิ้ง
  • สุขภาพและกีฬา (Health & Spoort) เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า อุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ จักรยาน เครื่องวัดความดัน เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ
  • เด็ก (Kids) เช่น คอกกั้นเด็ก ของเล่น ฯลฯ
  • ท่องเที่ยว (Travel) เช่น ที่พักในโรงแรมหรู สปา รีสอร์ท กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ
  • แกตเจ็ต (Gadgets) เช่น หูฟังไร้สาย ลำโพงบูลทูธ iPad นาฬิกา ฯลฯ
  • ไมล์สะสม (Mileages) สำหรับแลกแต้มบัตรเครดิตเป็นไมล์สะสมของสายการบินต่าง เช่น  2,000 คะแนนแลกเป็น 1,000 ไมล์ ซึ่งอัตราการแลกคะแนนก็จะแตกต่างกันไปตามสายการบิน
  • การบริจาค สามารถนำคะแนนสะสมบริจาคผ่านทางธนาคารได้เช่นกัน

ซึ่งที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็นเพียงบางส่วน แต่ละธนาคารก็จะมีของรางวัลให้แลกมากน้อยแตกต่างกันไป และของแต่ละชิ้นก็อาจใช้คะแนนหลักหมื่นคะแนน หรือ แสนคะแนนในการแลกของรางวัล หรือ อาจจะต้องใช้คะแนนบวกเงินเพิ่มเพื่อแลกรับของรางวัลได้เร็วขึ้น เงื่อนไขแตกต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคาร


บัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืน (Cash back) 

บัตรเครดิตประเภทนี้จะไม้ได้ให้คะแนนสะสมแก่เรา แต่จะให้เป็นเครดิตเงินคืนจากการชำระค่าสินค้าและบริการในแต่ละครั้ง ตามเงื่อนไขของบัตรเครดิตใบนั้นๆ

บัตรเครดิตแบบ Cash back จะให้เครดิตเงินคืนอยู่ที่ 0.4% - 1% ของยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต รายละเอียดตามเงื่อนไขของแต่ละบัตร

เหมาะกับใคร?

สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ชอบสะสมคะแนน ไม่ค่อยได้ใช้บัตรเครดิต หรือมองว่ากว่าจะสะสมคะแนนหลักหมื่น หลักแสนเพื่อแลกของรางวัลสักชิ้นคงใช้เวลาอีกนานแสนนาน ก็มักจะมองหาบัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืน เรียกได้ว่ารูดเมื่อไหร่ก็ได้เงินคืนกันไปเลย ไม่ต้องเสียเวลารอ ซึ่งเครดิตเงินคืนจะอยู่ที่ 0.4% - 1% ของยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารที่ออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตตัวนั้นๆ

เครดิตเงินคืน (Cash back) เอาไปใช้อะไรบ้าง?

ต้องบอกก่อนว่าธนาคารจะไม่ให้ถอนเครดิตเงินคืนออกมาเป็นเงินสด แต่มันจะอยู่ในบัตรเครดิตใบนั้นๆ เป็นยอดเครดิตเงินคืนที่จะเอาไว้หักค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในต่อๆ ไป เหมือนได้เครดิตเงินคืนมาเป็นตัวช่วยลดค่าใช้จ่าย สามารถดูข้อมูลได้ในใบแจ้งยอดหนี้บัตรเครดิต/ใบสรุปรายการ

บัตรเครดิตแบบไหนคุ้มกว่า?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัวนะครับ (มิเช่นนั้นธนาคารคงไม่ต้องออกบัตรเครดิตหลายๆ แบบมาให้เลือก) ขอตอบเป็นข้อๆ นะครับ
  • ถ้าเรามีไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจน เช่น ชอบกิน ชอบเที่ยว ชอบช้อปปิ้ง ก็เน้นไปที่บัตรเครดิตที่เฉพาะเจาะจงไปเลย อาจะเป็นบัตรที่ให้คะแนนคูณ 3-5 เท่า ในหมวดที่เราใช้ประจำ ก็จะตอบโจทย์มากกว่า
  • ถ้าเราใช้บัตรเครดิตไม่บ่อย หรือใช้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้เจาะจงหมวดใดหมวดหนึ่ง เลือกเป็นเครดิตเงินคืนก็จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ส่วนตัวผมขอแนะนำให้ใช้บัตรเครดิตประเภทสะสมคะแนน ดูการใช้จ่ายของเราย้อนหลังว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรมากสุด ก็หาบัตรเครดิตที่จะให้คะแนนสูงๆ ในหมวดนั้น ซึ่งคะแนนบัตรเครดิตทำอะไรได้เยอะ แลกของรางวัล แลกคะแนนเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนลดตอนชำระค่าสินค้าและบริการ และบางธนาคารเริ่มมีฟังก์ชันให้เราสามารถแปลงคะแนนบัตรสะสมเป็นเครดิตเงินคืนได้แล้ว ในทางกลับกัน ถ้าเราเลือกเป็นเครดิตเงินคืนจะมีลูกเล่นที่น้อยกว่า

อย่างไรบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมจากประสบการณ์ใช้บัตรเครดิต แนะนำให้ตัดสินใจด้วยตนเอง พิจารณาเลือกบัตรเครดิตที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด ให้ทุกการใช้จ่ายมอบสิ่งดีๆ กลับมาให้เราได้มากที่สุด

บัตรเครดิตที่คุณอาจสนใจ
บัตรเครดิต ซิตี้ แคชแบ็ก แพลตตินั่ม เหมาะสำหรับสายชอบเครดิตเงินคืน สุดยอดบัตรเครดิตคืนเงิน บัตรเครดิตคืนเงินที่ดีที่สุด ให้คุณได้รับเงินคืนทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ช่วยคุณประหยัดและคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย คืนสิ่งดีๆทุกวัน ยิ่งใช้ยิ่งได้คืน

บัตรเครดิต ซิตี้ แคชแบ็ก แพลตตินั่ม


บัตรเครดิต ซิตี้ รีวอร์ด เหมาะสำหรับสายชอบสะสมเเต้ม สะสมแต้งได้ไว เพื่อเเลกของรางวัลกว่า 300 รายการ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี เมื่อยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 100,000 บาทขึ้นไปต่อ 12 รอบบัญชี

บัตรเครดิต ซิตี้ รีวอร์ด

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น