ปัญหาของคนที่จะสมัครบัตรเครดิตสักใบต้องคิด คงหนีไม่พ้นว่า จะเลือกสมัครบัตรเครดิตในรูปแบบของการสะสมแต้ม หรือ รับเครดิตเงินคืน แบบไหนจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด? บทความนี้จะมาช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจครับ
จากที่เข้ามาในโลกบัตรเครดิต ต้องบอกเลยว่าทุกการใช้จ่ายของผมมักจะมองหาความคุ้มค่า ผลตอบแทนอะไรบางอย่างกลับมาเสมอ ใช้จ่ายค่าอาหารจะได้คะแนนเท่าไหร่ แลกเป็นเครดิตเงินคืนได้เท่าไหร่ รู้สึกเพลิดเพลินกับการรูดใช้บัตรเครดิต แต่ผมก็ไม่กลัวเรื่องการเป็นหนี้บัตรเครดิตนะครับ เพราะผมมีเทคนิดการใช้บัตรเครดิตที่ต่อให้รูดใช้จ่ายอย่างไรก็มีเงินจ่ายอยู่แล้ว ถ้าใครอยากรู้ว่าผมใช้เทคนิคอะไรลองไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ได้นะครับ
บัตรเครดิตประเภทสะสมคะแนน (Point)
บัตรเครดิตประเภทนี้ เมื่อเราใช้รูดชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ ธนาคารจะให้คะแนนสะสม (แต้มบัตรเครดิต) แก่เราในอัตราที่ธนาคารกำหนด
บัตรเครดิตทั่วไปเมื่อใช้จ่าย 25 บาท จะได้ 1 คะแนน นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตบางใบที่ให้ทุกการใช้จ่าย 10 บาท ได้ 1 คะแนน ทำให้สะสมคะแนนได้เร็วขึ้น
เหมาะกับใคร?
เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะเจาะจงไปในแต่ละด้าน ชอบล้าสะสมแต้ม ยิ่งโปรไหนแต้มกระฉูด จะรู้สึกอยากรูดไปหมดซะทุกอย่าง หลักๆ คือ เราจะต้องรู้ไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองก่อนว่า ตัวเราเองจะใช้บัตรเครดิตในหมวดไหนเป็นพิเศษ เช่น หมวดอาหาร หมวดช้อปปิ้ง หมวดบันเทิง ฯลฯ ก็ให้เราหาหาบัตรเครดิตที่ให้คะแนน คูณ 3 หรือ คูณ 5 ในหมวดนั้นๆ ไปเลย ก็จะทำให้สะสมคะแนนได้ไวมาก และควรเลือกบัตรเครดิตที่สามารถสะสมคะแนนได้เรื่อยๆ โดยที่คะแนนไม่หมดอายุคะแนนบัตรเครดิตเอาไปใช้อะไรบ้าง?
ธนาคารก็จะมีการให้นำคะแนนสะสมบัตรเครดิตไปแลกเป็นของรางวัลต่างๆ แตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้ไปดูแคตตาล็อกแลกของรางวัล หรือทางหน้าเว็บไซต์ของธนาคาร โดยสามารถนำคะแนนสะสมบัตรเครดิตไปแลกเป็นของรางวัลในหมวดต่างๆ ดังนี้
- เครื่องใช้ในบ้าน (Home Appliances) เช่น กาต้มน้ำไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง เตาอบ ไมโครเวฟ หม้อทอดไร้น้ำมัน ชุดหม้อกระทะ ทีวี เครื่องซักผ้า ฯลฯ
- ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) เช่น เครื่องนวดเท้า เก้าอี้นวด เครื่องชงกาแฟ ไดร์เป่าผม เต็นท์แคมปิ้ง
- สุขภาพและกีฬา (Health & Spoort) เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า อุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ จักรยาน เครื่องวัดความดัน เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ
- เด็ก (Kids) เช่น คอกกั้นเด็ก ของเล่น ฯลฯ
- ท่องเที่ยว (Travel) เช่น ที่พักในโรงแรมหรู สปา รีสอร์ท กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ
- แกตเจ็ต (Gadgets) เช่น หูฟังไร้สาย ลำโพงบูลทูธ iPad นาฬิกา ฯลฯ
- ไมล์สะสม (Mileages) สำหรับแลกแต้มบัตรเครดิตเป็นไมล์สะสมของสายการบินต่าง เช่น 2,000 คะแนนแลกเป็น 1,000 ไมล์ ซึ่งอัตราการแลกคะแนนก็จะแตกต่างกันไปตามสายการบิน
- การบริจาค สามารถนำคะแนนสะสมบริจาคผ่านทางธนาคารได้เช่นกัน
ซึ่งที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็นเพียงบางส่วน แต่ละธนาคารก็จะมีของรางวัลให้แลกมากน้อยแตกต่างกันไป และของแต่ละชิ้นก็อาจใช้คะแนนหลักหมื่นคะแนน หรือ แสนคะแนนในการแลกของรางวัล หรือ อาจจะต้องใช้คะแนนบวกเงินเพิ่มเพื่อแลกรับของรางวัลได้เร็วขึ้น เงื่อนไขแตกต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคาร
บัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืน (Cash back)
บัตรเครดิตแบบ Cash back จะให้เครดิตเงินคืนอยู่ที่ 0.4% - 1% ของยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต รายละเอียดตามเงื่อนไขของแต่ละบัตร
เหมาะกับใคร?
เครดิตเงินคืน (Cash back) เอาไปใช้อะไรบ้าง?
บัตรเครดิตแบบไหนคุ้มกว่า?
- ถ้าเรามีไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจน เช่น ชอบกิน ชอบเที่ยว ชอบช้อปปิ้ง ก็เน้นไปที่บัตรเครดิตที่เฉพาะเจาะจงไปเลย อาจะเป็นบัตรที่ให้คะแนนคูณ 3-5 เท่า ในหมวดที่เราใช้ประจำ ก็จะตอบโจทย์มากกว่า
- ถ้าเราใช้บัตรเครดิตไม่บ่อย หรือใช้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้เจาะจงหมวดใดหมวดหนึ่ง เลือกเป็นเครดิตเงินคืนก็จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ส่วนตัวผมขอแนะนำให้ใช้บัตรเครดิตประเภทสะสมคะแนน ดูการใช้จ่ายของเราย้อนหลังว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรมากสุด ก็หาบัตรเครดิตที่จะให้คะแนนสูงๆ ในหมวดนั้น ซึ่งคะแนนบัตรเครดิตทำอะไรได้เยอะ แลกของรางวัล แลกคะแนนเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนลดตอนชำระค่าสินค้าและบริการ และบางธนาคารเริ่มมีฟังก์ชันให้เราสามารถแปลงคะแนนบัตรสะสมเป็นเครดิตเงินคืนได้แล้ว ในทางกลับกัน ถ้าเราเลือกเป็นเครดิตเงินคืนจะมีลูกเล่นที่น้อยกว่า
0 ความคิดเห็น