เทคนิค​วิธีการประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์​ ในยุค​ covid 19 ลดค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤต | Ae Thanet



เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ covid 19 อยู่ในขณะนี้ หลายๆ คนตกงาน ขาดรายได้ สำหรับคนที่มีงานทำอยู่ก็นับว่าโชคดีแล้ว ทุกคนต่างมองหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกๆ ด้าน สำหรับคนที่มีรถยนต์ต่างรู้ดีว่าค่าเบี้ยประกันรถยนต์เป็นเงินก้อนที่เราต้องจ่ายทุกปี ดังนั้น บทความนี่ผมจะมาแชร์เคล็ดลับของการประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์จากประสบการณ์​ส่วนตัว

สำหรับคนที่มีรถยนต์ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าเราจะต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เป็นแบบรายปี มีทั้งประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองทั้งตัวรถยนต์และบุคคล เรียกว่าคุ้มครองครบแต่ต้องแลกกับการเสียค่าเบี้ยประกันหลักหมื่น ยิ่งทุนประกันสูงค่าเบี้ยประกันสูงตาม หรือถ้าจะประหยัดค่าเบี้ยประกันก็จะเป็นประกันชั้น 2 และชั้น 3 ที่จะได้รับความคุ้มครองที่น้อยกว่าประกันชั้น 1

ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิค 19 ทำให้หลายคนจะต้อง work from home หรือมีการเดินทางที่น้อยลงส่งผลให้เราใช้รถยนต์น้อยลง แต่กลับต้องเสียค่าเบี้ยประกันแบบเต็มจำนวนเท่าเดิม


มีวิธีการในการประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์หรือไม่? 

นับว่าโชคดีที่ปัจจุบันนี้มีทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์แล้ว นั่นก็คือ ประกันภัยรถยนต์ที่คิดค่าเบี้ยประกันตามการใช้งาน ซึ่งบริษัทประกันได้ทำประกันภัยรถยนต์ในลักษณะนี้ออกมา เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือว่าขับขี่รถยนต์น้อย ซึ่งบางเจ้าเคลมว่าสามารถช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันได้ถึง 40% กันเลยทีเดียว


บางคนอาจจะรู้สึกกังวลว่า ถ้าจอดรถยนต์ไว้เฉยๆ แล้วมีรถยนต์คันอื่นมาเฉียวชน หรือ รถหาย ไฟไหม้จะได้รับความคุ้มครองไหม ตรงนี้บริษัทประกันเขาก็ให้ความคุ้มครอง แต่อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเอกสารประกอบการพิจารณาตัดสินใจ หรือสอบถามบริษัทประกันก่อนตัดสินใจซื้อประกันครับ

ยิ่งคนที่มีรถยนต์หลายคัน แล้วไม่ได้ขับขี่ทุกวัน มีการสลับใช้รถบ้าง การเลือกใช้ประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้จะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันได้เยอะมาก

ประกันภัยรถยนต์แบบจ่ายค่าเบี้ยประกันตามการใช้งาน มีกี่แบบ?

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ประกันภัยรถยนต์แบบจ่ายเบี้ยประกันตามการใช้งาน มี 2 แบบ ได้แก่

1.จ่ายเบี้ยประกันตามระยะทางที่ขับขี่

  • เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ขับรถบางวัน มีรถหลายคัน ขับใกล้ๆ ระยะทางไม่ไกลมาก ขับน้อย จอดนาน โดยเฉพาะคนเมืองกรุงที่เจอปัญหารถติดก็จะเลี่ยงการขับรถยนต์และเน้นโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง ประกันภัยรถยนต์ที่คิดตามระยะทางขับขี่จึงค่อนข้างตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
  • ถ้าเจอปัญหารถติดจะชิวได้ เพราะประกันแบบนี้คิดตามระยะทาง ไม่ได้คิดตามเวลาใช้งาน แต่ถ้าต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัดบ่อย ผมไม่แนะนำ
  • ราคาเบี้ยประกันเริ่มต้นตั้งแต่ 4,900 บาทต่อปี ทั้งนี่แล้วแต่ยี่ห้อ ปี รุ่นรถยนต์ และทุนประกัน
  • การเลือกซื้อแนะนำว่าคุณจะต้องรู้ก่อนว่าใน 1 ปีนั้นคุณขับรถยนต์ระยะทางประมาณเท่าไหร่ เช่น น้อยกว่า 5,000 กม. หรือ 5,000 - 10,000 กม. หรือ มากกว่า 10,000 กม. เพื่อที่จะได้เลือกแพ็คเกจที่เหมาะสม หรือดูว่าคุ้มค่าที่จะเลือกประกันในลักษณะนี้ไหม เพราะถ้าคำนวณออกมาแล้วแพงกว่าประกันแบบปกติก็ไม่ควรซื้อ
  • ประกันในลักษณะนี้การสิ้นสุดความคุ้มครองจะมี 2 เงื่อนไข คือ กรรมธรรม์หมดอายุ หรือ ระยะทางครบตามกำหนด
  • การเติมหรือซื้อระยะทางเพิ่มสามารถทำได้หรือไม่? อันนี้แนะนำให้ไปศึกษาเพิ่มเติมจากรายละเอียดเงื่อนไขของประกันนั้นๆ อีกที

TIPอัพทูไมล์ จากทิพยประกันภัย  สิ่งที่คุณอาจสนใจ

ประกันรถยนต์ชั้น1 “TIPอัพทูไมล์” แค่ไหนแค่นั้น จากทิพยประกันภัย
ตอบทุกไลฟ์สไตล์การใช้รถ เพราะเลือกจ่ายได้ตามระยะไมล์ที่ใช้จริง แค่ไหนแค่นั้น ตั้งแต่เริ่ม!



2.จ่ายเบี้ยประกันตามเวลาที่ขับรถยนต์

  • เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ขับรถบางวัน มีรถหลายคัน ขับขี่ใกล้ๆ ใช้ระยะเวลาสั้นๆ  ขับน้อย จอดนาน เน้นโดยสารรถไฟฟ้า ประกันลักษณะนี้ก็ตอบโจทย์เช่นกัน 
  • แต่ถ้าเจอปัญหารถติดอาจเกิดความกังวลได้ ดังนั้นประกันลักษณะนี้อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์ผู้พักอาศัยใจกลางเมืองที่เจอปัญหารถติดเป็นชั่วโมงๆ แต่อาจจะตอบโจทย์กับผู้พักอาศัยชานเมือง ต่างจังหวัด หรือ บ้านกับที่ทำงานไม่ไกลมากนักใช้เวลาขับรถนิดเดียว หรือ นานๆ ทีจะไปเที่ยวต่างจังหวัด
  • ราคาเบี้ยประกันเริ่มต้นตั้งแต่ 4,900 บาทต่อปี ทั้งนี่แล้วแต่ยี่ห้อ ปี รุ่นรถยนต์ และทุนประกัน
  • การเลือกซื้อแนะนำว่าคุณจะต้องประเมินคร่าวๆ ก่อนว่า ในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน ปีจะใช้เวลาขับรถกี่ชั่วโมง แล้วดูว่าแพ็กเกจที่สนใจนั้นเขาให้ชั่วโมงมาเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ และต้องเติมชั่วโมงอีกกี่ครั้ง เป็นเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ถ้าประเมินดูแล้วคุ้มค่ามากกว่าซื้อประกันแบบปกติ ก็ตัดสินใจซื้อได้ง่ายๆ
  • ประกันในลักษณะนี้การสิ้นสุดความคุ้มครองจะมี 2 เงื่อนไข คือ กรรมธรรม์หมดอายุ หรือ ชั่วโมงหมด ต้องระวังอย่าให้ช่วโมงหมดก่อน และไม่แนะนำว่าให้เติมชั่วโมงที่เยอะเกินไป เพราะถ้ากรรมธรรม์หมดอายุแล้วชั่วโมงเหลือก็จะถูกทิ้งเสียเปล่า ใช้วิธีเหลือน้อยค่อยเติม
  • การเติมหรือซื้อชั่วโมงขับขี่เพิ่มสามารถทำได้? ทั้งนี้ให้ดูเงื่อนไขและราคาของประกันนั้นๆ อีกที
  • ห้ามลืมเปิด-ปิดประกันเป็นอันขาด เป็นจุดอ่อนของประกันประเภทนี้ เพราะเขาต้องดูเวลาเริ่ม-เวลาสิ้นสุดของการขับรถของเรา  แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีอุปกรณ์มาช่วยแก้ปัญหาแล้ว


ประสบการณ์เลือกใช้ประกันภัยรถยนต์แบบจ่ายค่าเบี้ยประกันตามการใช้งาน 

ตอนนี้อยู่ในช่วงทดลองใช้ประกันภัยรถยนต์เปิด-ปิด แบบ Top-Up เติมชั่วโมงได้ ของบริษัทประกันเจ้าหนึ่ง สีเขียวๆ ซึ่งตอนนี้ก็ทดลองใช้งานมา 6 เดือนแล้ว พอจะสรุปสิ่งที่น่าสนใจได้ดังนี้
  • ซื้อครั้งแรกได้มา 960 ชม./365 วัน เงื่อนไขการสิ้นสุดกรรมธรรม์ คือ ชั่วโมงหมดหรือกรรมธรรม์หมดอายุ ได้มาในราคา 6,300 บาท (ผมเลือกทุนประกัน 500,000 บาท)
  • เติมชั่วโมงได้ 50 ชม. 400 บาท (ตกชั่วโมงละ 8 บาท)
  • ตอนนี้คือเติมชั่วโมงไป 4 รอบ หมดเงินไป 1,600 บาทแล้ว  ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ประเมินไว้ (ถูกกว่าประกันเจ้าเดิมที่ผมทำไว้ปีที่แล้ว ซึ่งเจ้านั้นผมเสียไป 17,900 บาท)
  • ผมชอบอุปกรณ์ติดรถยนต์ มันจะช่วยเรื่องการเปิดประกันเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ และปิดประกันตอนเราดับเครื่องยนต์ แถมเป็น GPS ในตัวเลยค่อนข้างชอบ
  • ยิ่งช่วงสถานการณ์ Covid 19 คือ work from home หนักมาก แทบจะไม่ได้ใช้รถ เลยรู้สึก Happy กับการใช้ประกันลักษณะนี้ ช่วย save ค่าเบี้ยไปได้เยอะ
ซึ่งถ้าผมใช้ประกันครบ 1 ปีจะมาเขียนบทความรีวิวอีกทีครับ

สำหรับมือใหม่เลือกซื้อประกัน ผมแนะนำบทความที่ผมเขียนก่อนหน้า

สมัยนี้ซื้อประกันออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เราสามารถเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ เช็คเบี้ยประกันรถ เปรียบเทียบและทราบรายละเอียดคร่าวๆภายในเวลาไม่กี่นาที สะดวกสะบายจริงๆ ผมขอแนะนำเว็บซื้อประกันออนไลน์ที่ผมรู้จัก เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปเช็คเบี้ยประกันได้เลยครับ

Roojai.com - รู้ใจ 


Roojai.com เป็นประกันออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าขายดีที่สุดในประเทศไทย การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อนๆ สามารถลองเช็คเบี้ยประกันรถกับ Roojai.com ดูก่อนที่จะตัดสินใจแล้วอาจจะพบข้อเสนอที่ดีกว่าก็เป็นได้ครับ



RABBITFINANCE (แรบบิทไฟแนนซ์) ประกันรถยนต์ออนไลน์


แรบบิทไฟแนนซ์ เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์จาก 30 บริษัทชั้นนำภายใต้เครือ BTS Group พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ซึ่งทางแรบบิทไฟแนนซ์เขาโฆษณาว่าประหยัดเบี้ยสูงสุดถึง 70% เพื่อนๆ สามารถเข้าไปลองเช็คข้อเสนอต่างๆ ได้ครับ คลิกเช็คเบี้ยประกัน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น