ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพจะทำให้เรา "หาเงินเก่ง" ส่วนความเชี่ยวชาญด้านการเงินจะทำให้เรา "ใช้เงินเป็น" | Ae Thanet

 



ประโยคหนึ่งในหนังสือ "สมองเศรษฐี" ของคุณขุนเขา เขียนไว้ว่า  

ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพจะทำให้เรา "หาเงินเก่ง" ส่วนความเชี่ยวชาญด้านการเงินจะทำให้เรา "ใช้เงินเป็น"

เลยอยากลองนำประโยคดังกล่าวมาวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนว่าจริงไหม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่า "ความเชี่ยวชาญ" ก่อน หลายคนนั่งศึกษาหาความรู้อยู่ทุกวันแต่ไม่ลงมือปฏิบัติ แบบนี้ไม่เกิดความเชี่ยวชาญนะครับ แต่ถ้าเราเอาความรู้ที่ได้ศึกษานั้น มาลงมือปฏิบัติจริงๆ ทำซ้ำๆ แบบนี้จะเกิดความเชี่ยวชาญครับ ต่อไปเราจะมาแยกพิจารณาไปทีละประเด็นดังนี้

ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพจะทำให้เรา "หาเงินเก่ง"

จากประสบการณ์ทำงานของผมประมาณ 6 ปีแล้ว ผมได้ค้นพบว่า ในชีวิตการทำงานจะต้องใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา และ ความรู้ที่ใช้ในการทำงานนั้นไม่ใช่ความรู้จากในห้องเรียน แต่เป็นความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เราเลือกจะทำในชีวิต

ยกตัวอย่างตัวผมเอง ผมกำลังทำงานด้านการเก็บความต้องการ (Requirement) เพื่อส่งมอบให้ทีมออกแบบระบบ ซึ่งบางทีผมก็มีส่วนร่วมในการออกแบบระบบด้วย จุดนี้ผมต้องหาความรู้เพิ่มเติมว่า ในการเก็บข้อมูลที่ดีนั้น ผมจะต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เพื่อให้ทีมออกแบบได้มีข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถนำไปออกแบบระบบให้รองรับการใช้งานในทุกเคสของลูกค้าได้ ซึ่งความรู้เหล่านี้เกิดจากการลงมือทำ เกิดจากการศึกษาเพิ่มเติมเอง ไม่ได้มาจากในห้องเรียนโดยตรง หรือ ถ้าผมจะโดดไปช่วยงานทีมทดสอบระบบ ผมก็ต้องหาความรู้ที่เกี่ยวกับการทดสอบระบบ เพื่อให้ผมสามารถที่จะทำงานทดสอบระบบได้

ถ้าคุณผู้อ่านอยากจะทำธุรกิจเพาะปลูกต้นไม้หายาก คุณก็ต้องศึกษาอย่างจริงจังในเรื่องที่คุณจะลงมือทำ คุณก็อาจจะทำธุรกิจนั้นจนได้เงินเป็นสิบล้านได้แม้คุณอาจจะจบแค่ ป.4 ก็ตาม 

ถ้าวันนี้เรายังหาเงินไม่เก่ง นั่นแสดงว่าเรายังมีความรู้ที่ไม่มากพอ จะต้องพัฒนาความรู้ในสายอาชีพของเราต่อไป และต้องนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาลงมือปฏิบัติจนเกิดความเชี่ยวชาญ เมื่อมีความรู้ ความเชียวชาญในสายอาชีพแล้ว โอกาสในการสร้างเงินย่อมมีมากขึ้น

ถ้าวันนี้เรามีความรู้ ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของเราเป็นอย่างดีแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าเรา "หาเงินไม่เก่ง" นั่นอาจจะมาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เราอาจจะอยู่ในสายอาชีพที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคมหรือไม่? เลยทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง อาจจะต้องมองหาลู่ทางในอาชีพอื่นๆ ลงมือศึกษาหาความรู้ สร้างความเชี่ยวชาญในวิชาชีพใหม่ ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสทำเงินได้มากยิ่งขึ้น 

ถ้าวันนี้ความรู้ ความเชี่ยวชาญของเรายังคงเป็นที่ต้องการของสังคม แต่ยังรู้สึกว่าเรา "หาเงินไม่เก่ง" นั่นอาจจะมาจากการอยู่ในองค์กร บริษัทที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนตามความรู้ ความเชี่ยวชาญนั่นเอง ดังคำกล่าวที่ว่า "ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย" เชื่อว่าเป็นโมเม้นท์ของใครหลายๆ คน บางทีเราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Comfort zone มันไม่มีอยู่จริง คุณมีโอกาสถูกเลิกจ้างได้ บริษัทมีโอกาสปิดกิจการ องค์กรมีโอกาสถูกยุบองค์กรได้เช่นกัน และเราจะต้องพิจารณาย้ายตัวเองจากจุดเดิมไปยังจุดใหม่ที่เราคิดว่าดีกว่า ให้ผลตอบแทนตามความรู้ ความเชี่ยวชาญของเราจะดีกว่า 

ท้ายที่สุดแล้ว ผมเห็นด้วยกับประโยคที่คุณขุนเขากล่าวไว้ว่า ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพจะทำให้เรา "หาเงินเก่ง" และผมตระหนักแล้วว่า วันนี้ที่ผมยังหาเงินล้านไม่ได้เพราะผมขาดความรู้ ขาดความเชี่ยวชาญ ทักษาที่จะทำให้ผมคว้าเงินล้านได้นั่นเอง และผมจะตั้งใจพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นครับ


ความเชี่ยวชาญด้านการเงินจะทำให้เรา "ใช้เงินเป็น"

คนที่เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพอย่างเดียวจะไม่รวย ประโยคนี้หลายๆ คนคงรู้อยู่บ้างแล้ว มีหลายคนออกมาทำคลิปพูดถึงเรื่องนี้ บางเคสหาเงินแสน เงินล้านเก่งมากๆ แต่หามาได้เท่าไหร่ก็ใช้ไปหมด หรือแม้แต่กระทั่งตัวผมเอง หาเงินแสนได้ สุดท้ายก็หายไปหมด เพราะเราไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือกล่าวได้ว่า "ใช้เงินไม่เป็น" นั่นเอง

การมีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน ตอนนี้ผมมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ (มากจริงๆ) เมื่อเราหาเงินเก่งแล้ว เราต้องรู้ว่าเราจะบริหารเงินที่หามาได้อย่างไรด้วย 

ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน มันเป็นสิ่งที่อาจจะไม่ได้พูดกันในชั้นเรียนเลย หรือ อาจจะแทรกอยู่ในบางวิชา ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้เรียนมา แต่โชคดีที่สมัยนี้มีอินเทอร์เน็ตแล้ว ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ มากมายในโลกออนไลน์ได้ ถ้าเราหมั่นหาความรู้ด้านการเงิน (ซึ่งบล็อกนี้ผมก็พยายามเขียนเผยแพร่ความรู้ด้านการเงินเหมือนกันครับ ฝากติดตามด้วยนะ) และนำความรู้ด้านการเงินมาปฏิบัติ ก็จะเกิดความเชี่ยวชาญได้เหมือนกัน

ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพเช่น นาย ก. มีความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมมากๆ ทั้งทำงานประจำเงินเดือนหลายหมื่น หรือรับงานนอกรายได้ปีละหลายแสน แต่นาย ก. ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินเลย นาย ก. จึงใช้เงินไปกับการซื้อของที่ตัวเองอยากได้ แบบนี้นาย ก. จะรวยยากครับ

แต่ถ้าวันนี้ นาย ก. ตัดสินใจที่จะหาความรู้และสร้างความเชี่ยวชาญด้านการเงินอย่างจริงจังแล้ว นาย ก. เริ่มรู้จักคำว่าเงินสำรองฉุกเฉิน เริ่มมีการแบ่งเงินไปลงทุน แบบนี้ นาย ก. จะมีโอกาสรวยได้ครับ


ท้ายที่สุดแล้ว ผมเห็นด้วยกับประโยคที่คุณขุนเขากล่าวในหนังสือ "สมองเศรษฐี" เราควรมีความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพเพื่อที่จะทำให้เราหาเงินได้เก่งๆ และเราก็ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการเงินซึ่งจะทำให้เราใช้เงินเป็น ทำให้เราต่อยอดความมั่งคั่งได้นั่นเอง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยจุดประกายไอเดียสมองเศรษฐีของคุณผู้อ่านทุกคน อย่างน้อยๆ น่าจะทำให้ตระหนักเรื่องการเงินอยู่บ้าง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ เจอกันใหม่บทความหน้าครับ



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น